ดีอีเอส ตั้งเป้าบังคับใช้กฎหมายปราบปรามทางเทคโนโลยีอย่างเข้มข้น หวังตัดวงจรอาชญากรรมออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ ลดความสูญเสียทรัพย์สินของประชาชน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า จากการที่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ประกาศใช้อย่างเป็นทางการแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการตรวจสอบซิมและบัญชีม้าที่เป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพนำไปใช้หลอกลวงประชาชน พบว่ามีบัญชีต้องสงสัยกว่า 30,000 บัญชี แจ้งให้ประชาชนที่เคยรับจ้างรีบแจ้งปิดบัญชีโดยเร็ว หากตรวจพบต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 - 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 - 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีพบมีเหตุสงสัย หรือมีผู้ร้องเรียนสามารถแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่ได้ทุกแห่ง รวมถึงแจ้งความผ่านออนไลน์ สถาบันการเงินและผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชี และธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมั่นใจว่าการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่จะตัดวงจรปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ท้้งนี้ ได้นำรายชื่อแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดแนวทางรายละเอียดต่างๆ ในการป้องกันและปราบปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลงนามแต่งตั้งแล้วมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับคณะทำงาน อีกทั้งจะมีการจัดทำระบบ หรือ แพลตฟอร์มใช้สำหรับการประสานงานแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ธนาคารในการตรวจสอบบัญชีต้องสงสัยและปิดบัญชีคนร้ายได้ทันท่วงที

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230326190456932


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar