วันศุกร์ 18 มิถุนายน 2564 เวลา 14.00 นาฬิกา นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุม ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เผย ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน มีแนวโน้มยังดีขึ้นต่อเนื่อง ควบคุมการระบาดได้ดี โดยมีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 6,676 ราย รักษาหายสะสม 27,323 ราย หรือกว่า 80% ของผู้ติดเชื้อสะสมที่ 34,241 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวม 31 ราย หรือ 0.09% ของผู้ติดเชื้อสะสม

นายวัลลภฯ เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกรมราชทัณฑ์ ยังคงมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และสามารถควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดได้ โดยการตรวจพบเชื้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ จะเกิดจากการ SWAB หาเชื้อซ้ำในเรือนจำ/ทัณฑสถานที่เป็นเรือนจำสีแดงเป็นส่วนใหญ่ และเริ่มตรวจพบเชื้อ จากผู้ต้องขังในระบบกักโรคของเรือนจำ/ทัณฑสถานบางแห่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของห้องกักโรคว่าสามารถทำงานได้ดี ซึ่งต้องเน้นย้ำการรักษามาตรฐานการกักกันโรคอย่างเคร่งครัดต่อไป โดยเฉพาะในเรือนจำสีขาวที่ยังไม่พบการแพร่ระบาด ที่ได้กำชับให้เรือนจำ/ทัณฑสถานป้องกันเชื้อที่จะถูกนำเข้าสู่เรือนจำ/ทัณสถานทุกทาง ทั้งจากเจ้าหน้าที่ ครอบครัว และในผู้ต้องขังเข้าใหม่ ที่ต้องดำเนินการตามระบบคัดกรองโรคอย่างเข้มข้นต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะกลับเป็นปกติ

นายวัลลภฯ กล่าวต่อว่า แนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อภายในเรือนจำ/ทัณฑสถาน ต่อจากนี้ จะเริ่มเห็นตัวเลขของผู้ติดเชื้อที่รักษาหายแล้วเพิ่มมากขึ้น จากจำนวนผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่มีกว่าร้อยละ 90 ของผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ระหว่างการรักษา และคาดว่าจะมีเรือนจำสีแดงจำนวน 5 แห่ง ที่ผู้ติดเชื้อปัจจุบันจะได้รับ การรักษาจนหายทุกรายในเดือนมิถุนายนนี้ หากไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม คือ ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เรือนจำพิเศษธนบุรี เรือนจำจังหวัดสงขลา โดยเฉพาะเรือนจำกลางเชียงใหม่ ที่จะหายทั้งหมด ในวันที่ 18 มิถุนายน 2564 นี้

นายวัลลภฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านมาตรการเพื่อลดสถานะเรือนจำ/ทัณฑสถานจากเรือนจำสีแดงเป็นเรือนจำปกติ ในที่ประชุมศูนย์ฯ ได้พิจารณาในส่วนของหลักการและมาตรฐานเพื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการร่างเป็นข้อสั่งการเพื่อเป็นระเบียบปฏิบัติที่ชัดเจนแก่เรือนจำ/ทัณฑสถาน ซึ่งต้องดำเนินการควบคู่กับแผนคงสถานะเรือนจำสีขาว ด้วยการตรวจประเมินเป็นระยะเพื่อรับรองผลการเป็นเรือนจำปลอดเชื้อ แบบ 100% การบริหารจัดการวัคซีนของกรมราชทัณฑ์ ปัจจุบัน มีเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วจำนวน 42 แห่ง รวมทั้งสิ้นจำนวน 51,003 โดส เป็นวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรจากกรมควบคุมโรค 41 แห่ง จำนวน 45,000 โดส และจากจังหวัดภูเก็ตที่จัดสรรให้เรือนจำจังหวัดภูเก็ตอีก 1 แห่ง และในขณะนี้ยังอยู่ระหว่างประสานกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อกระจายวัคซีนไปยังเรือนจำสีขาวในเขตพื้นที่อื่นๆ จนกว่าจะครอบคลุมทั่วประเทศ ควบคู่กับแผนการฉีดวัคซีนของประชาชนทั่วไป รวมถึงการฉีดวัคซีนในเข็มที่ 2 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นนโยบายที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้เน้นย้ำเป็นพิเศษ เพราะผู้ต้องขังในเรือนจำ/ทัณฑสถาน ถือเป็นกลุ่มเปราะบางที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย

ข้อมูล : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/42855