มท.1 ประชุมติดตามการขับเคลื่อนงานนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญกระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำผู้ว่าฯ นายอำเภอ ทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับพี่น้องประชาชน

วันนี้ (16 ม.ค. 66) เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมราชสีห์ อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย โดยมี นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุชา โมกขะเวส ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจตรี ธารา ปุณศรี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายปรีชา เดชพันธุ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ร่วมประชุม โดยผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในพื้นที่จังหวัด และนายอำเภอ ร่วมประชุมผ่านระบบ Video Conference และ DOPA Channel

ในช่วงก่อนการประชุม พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แสดงความยินดีกับ นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 2565 และได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2566 โดยได้รับมอบหมายให้กำกับการปฏิบัติราชการกรมที่ดิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การประปานครหลวง และองค์การจัดการน้ำเสีย

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อติดตามการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งที่ผ่านท่านผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และท่านนายอำเภอ ได้รับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยไปดำเนินการเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยจะได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานในแต่ละจังหวัดต่อไป

จากนั้นเป็นการประชุมตามวาระติดตามการขับเคลื่อนงานของกรุงเทพมหานคร กรม และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ โดยแพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการดำเนินงานของกรุงเทพมหานครในการเปิดรับนักท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยและท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประมาณ 1.5 ล้านคน โดยได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร บริเวณอาคารส่วนการท่องเที่ยว ถนนพระอาทิตย์ เขตพระนคร โดยสามารถติดต่อผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 02-225-7612 หรือทางอีเมล์ bangkoktourist2560@gmail.com ซึ่ง มท.1 ได้เน้นย้ำให้สร้างการรับรู้ผู้ประกอบการ พนักงาน ร้านอาหาร รวมทั้งสถานที่ที่ต้องสัมผัสกับนักท่องเที่ยวหรือผู้คนจำนวนมากต้องระมัดระวังตนเองด้วยการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด รวมทั้งสร้างการรับรู้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้มีประกันสุขภาพในขณะที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยอีกด้วย

นอกจากนี้ มท.1 ได้มอบแนวทางการขับเคลื่อนงานของกรม จังหวัด และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ โดยให้ทุกจังหวัดให้ความสำคัญในการดำเนินการด้านการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่รัฐบาลกำหนด สำหรับในส่วนการแก้ไขปัญหายาเสพติดของกรมการปกครอง ซึ่งได้ทำการ Re X-Ray ผู้เสพยาเสพติด จำนวน 1 แสนกว่าราย ซึ่งจะนำไปสู่การคัดกรองแยกประเภทตามสีเขียว สีเหลือง และสีแดง โดยหากเป็นสีเขียว จะนำเข้าสู่การบำบัดรักษาโดยชุมชน จึงให้กรมการปกครองดำเนินการจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานให้ชัดเจนสำหรับผู้ปฏิบัติในพื้นที่ โดยประสานกับกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนั้น ยังต้องวางระบบการติดตามหลังจากออกจากการบำบัดรักษาแล้ว และต้องดำเนินการด้วยความสมัครใจ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตไม่ให้ผู้ได้รับการบำบัดกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก พร้อมทั้งได้กำชับผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน และมูลนิธิสมาคม ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และเน้นย้ำในการดำเนินงานระบบ DOPA digital ID ซึ่งเป็นกุญแจดอกแรกของการให้บริการประชาชนที่ภาคเอกชนให้ความเชื่อมั่น จึงต้องเป็นระบบที่บริการประชาชนด้วยความสะดวก รวดเร็ว ลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน สามารถใช้งานได้ทุกที่โดยไม่ต้องเดินทางมาติดต่อที่สำนักงาน อันจะเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง และได้กำชับกรมที่ดินในการดำเนินงานตัดช่องทางการลักลอบกระทำความผิดของต่างชาติเพื่อป้องกันการทำธุรกรรมผิดกฎหมายของชาวต่างชาติและการป้องกันกลุ่มธุรกิจที่ไม่ถือสัญชาติไทยมาถือครองที่ดิน ทั้งได้เน้นย้ำกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมรับมือภัยแล้ง เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีน้ำไว้อุปโภค บริโภค เช่น การปลูกพืชหลังนา พืชฤดูแล้ง พืชน้ำน้อย และมีอาชีพช่วงหน้าแล้ง การส่งเสริมให้มีผลิตภัณฑ์โอทอป มีอาชีพเสริม ตามแต่บริบทของพื้นที่ รองรับในช่วงเปิดประเทศที่เป็นฤดูการท่องเที่ยว เพื่อให้ประชาชนสามารถลืมตาอ้าปาก รวมทั้งดำเนินการด้านการลดแหล่งกำหนดจากมลพิษที่จะก่อให้เกิดปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) และชื่นชมการดำเนินงานด้านการป้องกันอุบัติเหตุที่มีสถิติการเกิดลดน้อยลง โดยยังคงดำเนินมาตรการป้องกันอย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกคน และได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดได้รณรงค์เรื่องการปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร โดยน้อมนำพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขับเคลื่อนขยายผลให้กับพี่น้องประชาชนครัวเรือนในพื้นที่ให้มีความแพร่หลาย เพราะเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ร่วมกับองค์การจัดการน้ำเสียทั้งด้านวิชาการ และด้านการฝึกอบรมสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจในการติดตั้งถังดักไขมันและระบบบำบัดน้ำเสียครัวเรือน เพื่อให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี และเน้นย้ำการประปานครหลวง บริหารจัดการน้ำ และส่งเสริมให้ประชาชนได้ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมกำชับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่จัดเตรียมกำลังคน อาสาสมัคร เครือข่าย ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มากที่สุด รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ ในเรื่องหมอกควัน ไฟป่า เพราะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอันจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ และสุขภาพของพี่น้องประชาชนโดยตรง

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องให้ความสำคัญกับแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งแผนดังกล่าวเป็นต้นทางในการกำหนดแนวทางภารกิจที่เกี่ยวข้องกับกับเรื่องของการวางแผนด้านงบประมาณที่เกี่ยวข้อง อาทิ เรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง ผังน้ำชุมชน ถนนปลอดภัย การพังทลายของหน้าดิน ดินโคลนดินถล่ม โดยบูรณาการทุกภาคส่วน

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและคนมหาดไทยได้ช่วยกันทำหน้าที่ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข พี่น้องประชาชนในทุกด้าน โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึง ที่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศจะต้องเผชิญกับความแห้งแล้ง ระแหง ต้องทำให้พี่น้องประชาชนมีทางทำมาหากิน มีอาชีพเสริม มีรายได้ เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เลี้ยงครอบครัว และทำหน้าที่ตามกฎหมาย และภารกิจ นโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย อย่างเต็มกำลังความสามารถ เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

ที่มา : https://newskm.moi.go.th/?p=19567


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar