ศบค.เตรียมพิจารณาผ่อนคลายพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เป็นพื้นที่สีแดง หลังมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดได้ผล

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ เพิ่มขึ้น  72 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 25,764 ราย หายป่วยแล้ว 24,734 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล  947 ราย ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 83 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสมระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2563  - 25 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 21,527 ราย โดยผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 72 ราย เป็นผู้ที่ติดเชื้อในประเทศ 63 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 43 ราย ,จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 20 ราย เป็นผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ 9 ราย จากอินโดนีเดีย 1 ราย   สหรัฐอเมริกา 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย ไนจีเรีย 1 ราย, โอมาน 1 ราย รัสเซีย 1 ราย บังคลาเทศ 1 ราย

สำหรับผู้ติดเชื้อทั่วโลก 113 ล้านราย เสียชีวิตแล้ว 2.5 ล้านคน ประเทศที่ประชากรติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 28.9 ล้านราย ตามด้วยอินเดีย 11 ล้านราย บราซิล 10.3 ล้านราย รัสเซีย 4.2 ล้านราย สหราชอาณาจักร 4.1 ล้านราย ขณะที่ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 114

ส่วนจังหวัดปทุมธานี จากการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่เสียงจังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีตลาดหลายแห่ง และพ่อค้าแม่ค้ามีลักษณะการเดินทางไปในหลายจังหวัด จึงมีการเชื่อมโยงแพร่กระจายเชื้ออย่างง่ายดาย จากปทุมธานี ดังนั้นหากมีความจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าว ก็ควรจะสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์อย่างสม่ำเสมอ

ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ได้ประชุมทางไกล ไปยังจังหวัดตาก โดยมีการรายงานสถานการณ์ที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อสะสมถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 154 ราย ส่วนใหญ่ ผู้ติดเชื้อเป็นพนักงานขับรถขนส่งสินค้าไทย-เมียนมา ซึ่งจังหวัดตากมีการเสนอโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ การค้าตามแนวชายแดนไทยแม่สอดเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการทบทวนอาคาร โครงสร้าง มาตรการความสะอาด ห้องน้ำ รวมถึงการคัดกรองบุคคลที่จะข้ามแดนฝั่งไทยและเมียนมา เพื่อให้มีความปลอดภัยปราศจากเชื้อที่เข้มข้นมากขึ้น โดยโครงการของจังหวัดตากนี้ จะเสนอเป็นต้นแบบของการคัดกรองในพื้นที่อื่นๆ ที่ติดกับชายแดนเพื่อนบ้านด้วย โดยจังหวัดตาก ที่นอกจากต้องดูแลการแพร่ระบาดแล้ว ยังเป็นห่วงสถานการณ์จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ซึ่งมีพื้นที่ใกล้กัน ที่มีเหตุการณ์ไม่สงบ โดยผู้ว่าราชการจังหวัด เตรียมแผนรับมือกรณีมีผู้อพยพข้ามแดน และการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดด้วย โดยนายกรัฐมนตรี ฝากให้กำลังใจบุคลากรที่ทำงานอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดตาก ซึ่งจะเป็นหนึ่งในจังหวัดที่จะได้รับการกระจายวัคซีนในล็อตแรกด้วย

จังหวัดสมุทรสาคร ที่ประชุม ศบค. เมื่อเช้านี้ มีการทบทวนมาตรการ ส่วนที่ 1 คือ ตลาดกลางกุ้ง ที่ปิดมาเกือบ 2 เดือนแล้ว จึงมีการหารือกันว่า จะสามารถกลับมาเปิดค้าขายได้ตามปกติเร็วๆ โดยจะรอดูตัวเลขวันที่ 1 มีนาคมนี้ รวมถึงสถานการณ์ของโรงพยาบาลสนาม ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 9 แห่ง หรือที่เรียกว่า ศูนย์ห่วงใยคนสาคร ก็จะมีการปรับจำนวนลดลงตามความจำเป็นตามสถานการณ์ แต่ยังคงจะเตรียมไว้ เพื่อในอนาคตด้วย

อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ ที่ตลาดกลางกุ้งจะได้เห็นมาตรการที่ดีขึ้น ที่ทางสาธารณสุขจังหวัด เห็นว่า มีความปลอดภัยและมีความมั่นใจว่า สถานการณ์น่าจะสามารถนำเสนอการปลดล็อคในสัปดาห์นี้ เนื่องจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นห่วงภาคเศรษฐกิจ และส่วนที่ 2 คือ เรื่องสถานศึกษา โดยเร็วๆ นี้จะมีการเสนอ เพื่อพิจารณาปรับพื้นที่สีแดงเข้มเข้ม เข้มงวดสูงสุดเป็นสีแดงและแผนการกระจายวัคซีนด้วย ซึ่งสมุทรสาคร จะได้รับพร้อมกับพื้นที่เสี่ยงหลายๆ จุด เช่น กทม. ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ ตาก นครปฐม สมุทรสงคราม และราชบุรี ก็เป็นจังหวัดที่จะได้รับการกระจายวัคซีนในล็อตแรกนี้ ทั้งนี้สัปดาห์หน้าจะเสนอมาตรการลตรวจค้นหาแอนติบอดี เพื่อตรวจความพร้อมของร่างกายก่อนรับวัคซีน ซึ่งโรงพยาบาลภาครัฐ ภาคเอกชน มีความพร้อมแล้ว จะปฏิบัติตามมาตรการการฉีดวัคซีนอย่างเคร่งครัด

ที่มา  https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210225155354022


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar