นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "นักธุรกิจรุ่นใหม่กับโอกาสในการสร้างธุรกิจและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ" ภายในงาน the Next Real พุ่งสู่อนาคตด้วยประสบการณ์จริง ณ โรงแรมแบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

นายกฯ เศรษฐา ย้ำจุดยืนทางเศรษฐกิจ พร้อมรับฟังทุกภาคส่วน
ในตอนต้นของการกล่าวปาฐกถาพิเศษ นายกฯ พูดถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่า เป็นธุรกิจที่คนจำนวนมากสนใจ หลายคนประสบความสำเร็จเพราะทำงานหนักและทุ่มเท ซึ่งผู้ที่ประสบความสำเร็จก็อยากให้มาช่วยสังคมบ้าง ส่วนการแข่งขันถือเป็นเรื่องที่ดีอย่าง นายอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 
และตนเองที่สามารถอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์มาได้อย่างยาวนาน และประสบความสำเร็จก็เพราะมีคู่แข่งที่ดี 
มีคุณภาพ เพราะว่าการแข่งขันเป็นเรื่องที่ดีเป็นเรื่องที่ทำให้พัฒนาไปในอนาคต แต่ขอให้เป็นการแข่งขัน
ที่ถูกต้อง ที่พัฒนาคุณภาพและเอาลูกค้าเป็นที่ตั้ง พร้อมกับขอให้ผู้ที่ต้องการเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ขอให้ทำอย่างจริงจังและมีทีมที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เปราะบาง ในปัจจุบันที่ดอกเบี้ยแพงมากและยังไม่ยอมลดลง ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่กำหนดกำลังซื้อของประชาชน

นายกฯ ย้ำ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ยืนยันไม่มีทุจริต
นายกฯ กล่าวถึงความจำเป็นในการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นเพราะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจเพียงร้อยละ 1.8 โดยรัฐบาลยืนยันการดำเนินโครงการนี้เพื่อประชาชน และยืนยันว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่มีการทุจริต และสามารถตรวจสอบได้ ผ่านการนำเทคโนโลยี Blockchian มาใช้ พร้อมกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อความเสมอภาคและเท่าเทียม โดยรับฟังความคิดเห็นจาก
ทุกภาคส่วน เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างเหมาะสม 

“เราพยายามฟังจากทุกคนทั้งสถาบันการเงิน ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายดิจิทัล เราพยายามทำให้เหมาะสมที่สุดแล้ว และเชื่อว่าจะมีการจ้างงาน มีการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ 5 แสนล้านบาท ประมาณ 17% ของงบประจำปี ยืนยันไม่มีการทุจริต”

นายกฯ ยัน 6 เดือนกว่า เปิดประตูการลงทุนต่างชาติในไทย “รอผลิดอกออกผล”
นายกฯ ยังกล่าวถึงการเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งเป็นการไปแนะนำตัวกับประเทศเพื่อนบ้าน และสิ่งสำคัญ คือ การไปประกาศให้ทั่วโลกรับรู้ว่า ประเทศไทยพร้อมเปิดแล้วที่จะรองรับการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจให้ทุกภาคส่วนของไทย รวมทั้งเดินหน้าผลักดันการท่องเที่ยว ทั้งเรื่องวีซ่าฟรี ยกระดับเมืองรอง โดยการสร้างสนามบินเพิ่มเติมเป็นการลงทุนโครงการพื้นฐาน และจะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยในอนาคต  

นายกฯ กล่าวถึงการเดินทางไปต่างประเทศกว่า 10 ครั้งที่ผ่านมานั้น เพื่อไปประกาศให้ชาวโลกรู้ว่าประเทศไทยเปิดแล้ว เพื่อรองรับการลงทุน โดย ขอให้ติดตามผลงานที่จะเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมอย่างแน่นอน ประเทศไทยปิดมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ในการเดินทางไปต่างประเทศในแต่ละครั้งมีตารางงานเป็นจำนวนมาก แต่ถือว่าเป็นหน้าที่เพื่อให้เกิดการกระตุ้นการลงทุน ยกระดับภาคอุตสาหกรรมทุกภาคส่วนของประเทศไทย ทำให้เรามีกินมีใช้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

นายกฯ เผยให้ความสำคัญ “ภาคใต้” ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ 
นายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเป็นนายกฯ คนแรกที่ลงพื้นที่ภาคใต้ 2 คืน 3 วัน ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยง แต่ก็ไม่ให้มีใครใส่เสื้อเกาะ ตลอดจนมีทหาร หรือรถถังตามมา เพราะมั่นใจว่าไปด้วยเจตนารมณ์ที่ดี และขอไม่ให้ประชาชนหลงเชื่อวาทกรรมที่ผู้นำบางท่านพูดว่า "เพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้” เพราะถึงแม้จะไม่มี สส. ในพื้นที่เลย แต่ก็มีความตั้งใจในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ เช่นสนามบิน จ.ภูเก็ต มีการลงทุนไปหลายหมื่นล้านบาท โดยนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่ติดตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว เพื่ออัปเกรดสนามบิน ถนน ควบคู่ไปกับการเดินหน้าผลักดันการท่องเที่ยว ทั้งเรื่องวีซ่าฟรี ยกระดับเมืองรอง โดยการสร้างสนามบินเพิ่มเติมเป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยในอนาคต ส่วนโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย -อันดามัน หรือโครงการแลนด์บริดจ์ ช่วยประหยัดเวลา รองรับการขนถ่ายสินค้าจากทั่วโลก ทำให้การค้าระหว่างประเทศดีขึ้น หลายประเทศจึงอยากเข้ามาลงทุน 

นอกจากนี้  ประเทศไทยมีความมั่นคงทางอาหาร ที่ผลิตได้มาก สามารถส่งออกได้ รวมถึงอาหารฮาลาล การแปรรูปอาหารส่งออก นักลงทุนให้ความสนใจอยากร่วมลงทุนจำนวนมาก เช่นเดียวกับพลังงานสะอาด 
ที่ประเทศไทยมีมากกว่าประเทศคู่ค้า เป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่สามารถดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในประเทศไทยได้ หลายเรื่องต้องดำเนินการต่อไป

นายกฯ ทิ้งท้าย ไทยเสถียรภาพทางการเมืองดีขึ้น เผยผลงานเป็นรูปธรรม ใน 18 เดือนนี้

ช่วงสุดท้ายของการกล่าวปาฐกถาพิเศษ นายกฯ ได้ย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงแค่โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเท่านั้น แต่ยังมีโครงการอื่น ๆ อีกมากที่จะเห็นเป็นรูปธรรมใน 18 เดือนข้างหน้า ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมยืนยันว่ามีความตั้งใจจริง และจะทำให้ดีที่สุด

“รัฐบาลนี้ผลักดันให้สมัครใจเกณฑ์ทหาร ซึ่งถือเป็นเรื่องหนึ่ง มีอีกหลายเรื่องที่อยากพูด สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด จริง ๆ แล้ว ประเทศเราต้องยอมรับว่ากำลังมีปัญหาทางความมั่นคง แต่เราดีขึ้นเยอะ เสถียรภาพทางด้านการเมืองดีขึ้นมาก เศรษฐกิจเรามีปัญหาทางการลงทุน การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นความจำเป็น ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตอย่างเดียว แต่อีกหลายเรื่องที่จะต้องทำ ซึ่งเราจะทำต่อไป แต่ผลที่จะเกิดขึ้น คงต้องให้เวลาอีกพอสมควร คิดว่าประมาณ 18 เดือน แต่อย่าลืมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ตลาดหุ้นมีความไวต่อสัญญาณที่ดี หาก 6 เดือน หรือ 12 เดือน ตลาดจะเด้งแรงมาก ข่าวดีอันนึงหมดปีงบประมาณไปแล้ว 6 เดือน ยังไม่ได้ใช้งบประมาณสักบาท ในวันที่ 1 พฤษภาคม ใช้ได้เหลืออีกแค่ 5 เดือน งบประมาณตัวนี้บวกกับงบประมาณตัวหน้า 24 เดือน ก็ใช้ไปแค่ 16 เดือน ฉะนั้นจะมีการลงทุนเยอะมาก อันนี้เป็นเรื่องของข่าวดี และข่าวดีอีกเรื่อง คือ มีนายกฯ Pro Business ที่เข้าใจ และมีความตั้งใจจริง ที่จะทำให้ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นเรื่องการผลิต การลงทุน การจัดซื้อจัดจ้างเราจะดูทั้งหมด เพราะเราทราบดี เคยทำมาก่อน ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด และขอให้เป็นกำลังใจและขอให้มีความอดทนต่อไป”

ข้อมูล ณ วันที่ 29 มีนาคม 2567