เปิดผลงาน 210 วัน รัฐบาล ภายใต้การนำของนายกฯ เศรษฐา

นับตั้งแต่รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศ รัฐบาลมีผลงานตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงาน ทั้งเรื่องราคาพลังงาน สาธารณสุข การเกษตร การท่องเที่ยว รวมทั้งยังวางแผนในระยะยาว เพื่อเดินหน้าแก้ปัญหาความเดือดร้อน พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น 
สรุปผลงาน 210 วัน รัฐบาลวางรากฐานอนาคตคนไทย
ดูแลภาคการเกษตร
เพิ่มราคาสินค้าเกษตร
ราคายางพาราทะลุกิโลกรัมละ 90 บาท สูงสุดในรอบ 7 ปี 
ปีทองชาวนาไทย ราคาข้าว พุ่งสูงในรอบกว่า 10 ปี จากเฉลี่ยตันละ 8,000 – 9,500 บาท  ทะลุกว่า 12,000 บาท
ลดต้นทุนการเกษตร
ช่วยชาวนาจ่ายค่าเก็บเกี่ยว ไร่ละ 1,000  บาท  
ช่วยชาวไร่อ้อย จ่ายค่าตัดอ้อยสด ตันละ 120 บาท
พักหนี้เกษตรกรที่มีหนี้ไม่เกิน 3 แสนบาท 
ปราบสินค้าเถื่อน
ปราบปรามการลักลอบนำเข้าเนื้อวัว – เนื้อหมู และยางพารา ตลอดจนสินค้าเกษตรอื่น ๆ  อย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้สินค้าเถื่อนเข้ามากดราคาสินค้าเกษตรไทย
กระตุ้นเศรษฐกิจ
กระตุ้นการใช้จ่าย
เดินหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet  วงเงิน 5 แสนล้านบาท  ให้สิทธิแก่ประชาชน จำนวน 50 ล้านคน จะเริ่มใช้จ่ายได้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 
ขยายเวลาเปิด – ปิดสถานบริการ ถึงตี 4 นำร่อง 4 จังหวัด กรุงเทพ ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี  และ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 
ลดภาษีสรรพสามิต เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ไวน์จัดเก็บอัตราเดียวที่ 5%, สุราแช่พื้นเมือง เช่น อุ กะแช่ สาโท ที่มีแอลกอฮอล์ไม่เกิน 7 ดีกรี ลดเป็น 0% และสถานบริการ ปรับลดเป็น 5%)

กระตุ้นการท่องเที่ยว
วีซ่าฟรีนักท่องเที่ยวจีน/คาซัคสถาน/อินเดีย/ไต้หวัน (ไม่เกิน 30 วัน) รัสเซีย (ไม่เกิน 90 วัน) ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ 1 มกราคม - 9 เมษายน 2567  มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยถึง 10,168,745 คน 


-2-

เพิ่มขึ้น 146.21% จากปีที่ผ่านมา โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 1,920,039 คน มาเลเซีย 1,274,528 คน รัสเซีย 670,233 คน เกาหลีใต้ 595,705 คน และอินเดีย 519,878 คน
ยกเว้นกรอกใบ ตม.6 จำนวน  12 ด่าน ทั้งทางบก - ทางน้ำ เป็นการชั่วคราว  15 เม.ย. – 15 ต.ค. 67 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย 
ขยายเวลาการเปิดให้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่ 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และเที่ยวบินที่จะเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ 
ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อกระจายรายได้ ผ่านโครงการซอฟต์พาวเวอร์ ด้วยการจัดกิจกรรม งานเทศกาล และนิทรรศการต่าง ๆ ตลอดทั้งปี
จัดงานมหาสงกรานต์ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ ต่อเนื่อง 21 วัน ดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่งผลเงินสะพัด 
3 พันล้านบาท เฉพาะงาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ 2567 ที่ถนนราชดำเนินกลางและพื้นที่ท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน 2567 
มีจำนวนผู้เข้าร่วมงาน 784,883 คน แบ่งเป็นคนไทย 693,288 คน ชาวต่างชาติ 91,595 คน
 มีกระแสเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 2,886.82 ล้านบาท
เสริมขีดความสามารถของประเทศ
นายกรัฐมนตรีเดินทางโรดโชว์ เป็นเซลแมน ไป 14 ประเทศ ดึงดูดนักลงทุนรายสำคัญ พบปะหารือกับบริษัทชั้นนำจากทั่วโลกกว่า 60 แห่ง  ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของการลงทุน ในปี 2566 มีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนมูลค่ารวม 8.5 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 9 ปี เฉพาะการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เติบโตถึง 72% จากปีก่อน และในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 มูลค่า FDI ขยายตัวกว่า 145% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในช่วงปีที่ผ่านมา
เร่งเจรจากรอบความร่วมมือการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยมี Roadmap 26 ฉบับ ดำเนินการแล้ว 15 ฉบับ อยู่ระหว่างเจรจาเพิ่มอีก 11 ฉบับ 
ประกาศเป้าหมายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการบินของภูมิภาค ยกระดับท่าอากาศยานทั่วประเทศ  ผลักดันสนามบินสุวรรณภูมิติด 1 ใน 50 สนามบินของโลก และภายใน 5 ปีสนามบินสุวรรณภูมิจะเป็น 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดของโลก พร้อมกับวางแผนสร้างสนามบินใหม่อีก 2 แห่ง คือ สนามบินล้านนา และอันดามัน 
ลดรายจ่าย
ลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้แก่ประชาชน
- ลดค่าไฟฟ้า เหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย ม.ค. – เม.ย. 67 และตรึงราคาต่อเนื่อง
- ตรึงราคาพลังงาน (ลดราคาน้ำมันดีเซล 2.50 บาท/ลิตร,ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินลง 1 บาทต่อลิตร) เพื่อไม่ให้กระทบค่าขนส่งและค่าครองชีพ
- ค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย (สายสีม่วงและสีแดง) 
- ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยโดยสนับสนุนค่าใช้จ่าย ในการซื้อสินค้าและบริการที่จำเป็น 
             และตรึงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม LPG ขนาด 15 กิโลกรัม ไว้ที่ 423 บาทต่อถัง
-3-

อุดหนุนค่าอาหารกลางวันของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา จำนวน 575,983 คน รวมทั้งสิ้น 2,955.57 ล้านบาท มีผลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
เดินหน้า “แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ” ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ เปิดลงทะเบียนตั้งแต่ วันที่ 1 ธ.ค.2566 มียอดผู้ลงทะเบียนกว่า 150,000 ราย รวมมูลหนี้กว่า 9,800 ล้านบาท  เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้แล้ว 45,891 ราย สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ 26,756 ราย มูลหนี้ลดลง 1,049 ล้านบาท 
เพิ่มรายได้
ผลักดัน Soft Power 11  สาขา หยิบจับของพื้นถิ่น ภูมิปัญญาชาวบ้านให้มีมูลค่าเพิ่ม โดยเฉพาะศิลปะ "มวยไทย"  ผ้าขาวม้า/ผลิตภัฑณ์กระจูดโกอินเตอร์ โดย นายกรัฐมนตรี และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ อีกทั้งยังส่งเสริมงานมหกรรมที่หลากหลาย พร้อมจัดงานมหกรรม Thailand Soft Power และมหกรรมดนตรีระดับโลกในอนาคต
ส่งเสริมสินค้า OTOP สู่แพลตฟอร์มออนไลน์ สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม
โครงการ “โคแสนล้าน” สนับสนุนเงินกู้ยืมให้เกษตรกรครอบครัวละ 50,000 บาท เพื่อใช้เลี้ยงโค 
2 ตัว นำร่อง 500,000 ครัวเรือน
แก้กฎหมายประมงให้สอดคล้องกับวิถีประมงพื้นบ้าน ไม่ขัดต่อหลักการไอยูยู เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนของชาวประมง
สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี
บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ นำร่อง 4 จังหวัด (แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส) ปัจจุบันเดินหน้าโครงการระยะ 2 เพิ่มอีก 8 จังหวัด (เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว หนองบัวลำภู นครราชสีมา อำนาจเจริญ และพังงา) เตรียมขยายผลทั่วประเทศใน 1 ปี
ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ วันละ 400 บาท ในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ประเภทกิจการโรงแรม นำร่องในพื้นที่ 10 จังหวัดท่องเที่ยว (ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เฉพาะเขตปทุมวันและวัฒนา, กระบี่ เฉพาะเขต อบต.อ่าวนาง, ชลบุรี เฉพาะเขตเมืองพัทยา, เชียงใหม่ เฉพาะเขตเทศบาลนครเชียงใหม่, ประจวบคีรีขันธ์ เฉพาะเขตเทศบาลหัวหิน, พังงา เฉพาะเขตเทศบาลต. คึกคัก, ภูเก็ตทั้งจังหวัด, ระยอง เฉพาะเขตต. เพ, สงขลา เฉพาะเขตเทศบาล นครหาดใหญ่ และสุราษฎร์ธานี เฉพาะเขตเทศบาลนครเกาะสมุย) เริ่ม 13 เม.ย. 2567 เป็นต้นไป
ปรับฐานค่าครองชีพเบี้ยหวัดบำนาญข้าราชการ เป็น 11,000 บาท เริ่ม 1 พ.ค. 67 เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน 
ปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ ในอัตรา 10% ภายในระยะเวลา 2 ปี (ทยอยปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุตามคุณวุฒิเพิ่มขึ้นทุกคุณวุฒิ) โดยวุฒิการศึกษาปริญญาตรี เงินเดือนแรกรับอยู่ที่ 18,150 บาท เริ่มในปีงบประมาณ 2567 - 2568 

-4-

เพิ่มสิทธิลาคลอดบุตรโดยได้รับค่าจ้างจากเดิมไม่เกิน 90 วัน เป็นไม่เกิน 98 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับแรงงานภาคเอกชนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 รวมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (เฉพาะผู้ป่วยระดับสีเหลืองและสีแดง)
จัดโครงการสินเชื่อเงินด่วนคนดี งบประมาณจำนวน 10,000 ล้านบาท ให้สมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร (อสส.) รายละไม่เกิน 20,000 บาท ยื่นกู้ได้ ณ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุน การเข้าถึงแหล่งเงินทุน
ในการอุปโภคบริโภคแทนการกู้เงินนอกระบบ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.67 ต่อเดือน ลดต้น ลดดอก ผ่อนชำระไม่เกิน 4 ปี
เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินทำกิน มีรายได้ มีความมั่นคงในชีวิต
คิกออฟฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก 1 ล้านโดสใน 100 วัน 
กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่งเสริมการลงทุนในประเทศ และสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยของประชาชน แบ่งเป็น สำหรับประชาชน และผู้ประกอบการ
ลดค่าจดทะเบียนโอนจาก 2% และค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01%  ถึง 31 ธ.ค.67 และลดหย่อนภาษีเงินได้สำหรับผู้ต้องการปลูกสร้างบ้าน สัญญาจ้างตั้งแต่ 9 เม.ย. 67 - 31 ธ.ค. 68  ลดหย่อนได้ 10,000 บาท ต่อทุก 1 ล้านบาท รวมแล้วไม่เกิน 1 แสนบาท
สินเชื่อ (ธ.ออมสิน) บ้านออมสินเพื่อประชาชน รายละไม่เกิน 7 ล้านบาท ดอกเบี้ยปีแรก 1.95% เฉลี่ย 3 ปีแรก 2.95% ต่อปี ยื่นขอได้ตั้งแต่ 17 เม.ย. – 30 ธ.ค. 67 
สินเชื่อ (ธอส.) Happy Home รายละไม่เกิน 3 ล้านบาท ดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี นาน 5 ปี ยื่นขอได้ถึง 30 ธ.ค. 68 และ Happy Life รายละ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.98% ต่อปี ยื่นขอได้จนกว่าวงเงินจะเต็ม 
โครงการบ้าน BOI ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี ไม่เกิน 100% ของเงินทุน และการสร้างที่อยู่อาศัย สำหรับผู้มีรายได้น้อย ยื่นขอภายในวันทำการสุดท้ายของปี 68
โครงการสินเชื่อ D – HOME การลงทุน เช่น ค่าที่ดิน ค่าก่อสร้าง ค่าพัฒนาสาธารณูปโภค ดอกเบี้ยเริ่มต้น 3.5% ต่อปี และฟรีค่าธรรมเนียม โดยยื่นขอได้ตั้งแต่ 17 เม.ย. 67 เป็นต้นไป
         รัฐบาลได้ประเมินการทำงานที่ผ่านมา พบว่า มีความสำเร็จ เริ่มผลิดอกออกผลจากการทำงานอย่างหนัก วางแผน กำหนดนโยบายด้วยทีมงานที่เข้าใจการทำงาน และเข้าใจชีวิตประชาชนอย่างแท้จริง 


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar