นายกฯ มุ่งมั่นเอาจริง ปราบปราบมิจฉาชีพ อาชญากรรมออนไลน์ทางเทคโนโลยี ส่งผลสำเร็จเห็นเป็นรูปธรรมตัวเลขปิดบัญชีม้าได้แล้ว กว่า 7 แสนบัญชี อายัดเงินเกือบ 1 พันล้าน

วันนี้ (4 พฤษภาคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลงาน ด้วยความมุ่งมั่นใส่ใจ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ส่งผลให้รัฐบาล ปิดบัญชีม้าแล้วกว่า 7 แสนบัญชี อายัดเงินเกือบ 1 พันล้าน และอยู่ระหว่าง ตรวจสอบ เพื่อคืนเงินผู้เสียหายต่อไป

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า ตัวเลขบัญชีม้าที่ถูกปิดบัญชีแล้ว แบ่งเป็น
- ข้อมูลจาก ธปท. ในส่วนที่ธนาคารพบเองโดยใช้ข้อมูลจากตำรวจ ส่งผลให้ธนาคารได้ปิดบัญชีม้าราว 300,000 บัญชี 
- ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (ศูนย์ AOC 1441) ปิดบัญชีม้า 112,699 บัญชี 
- สำนักงาน ปปง. ปิดบัญชีม้า 318,298 บัญชี 
รวมทั้งหมดราว 730,997 บัญชี

ทั้งนี้ เมื่อหน่วยงานปิดบัญชีม้าแล้วนำส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมข้อมูลและนำข้อมูลส่งให้ ป.ป.ง.ประกาศรายชื่อดังกล่าวเข้าในระบบ HR-03 หรือระบบรายชื่อบุคคลพฤติกรรมเสี่ยงสูงหรือต้องเฝ้าระวังกรณีบัญชีม้า และหากบุคคลปรากฏชื่อตามประกาศจะเปิดบัญชีใหม่ต้องถูกตรวจสอบเข้มงวดขึ้นตามมาตรการควบคุมการเปิดบัญชีใหม่ เพื่อป้องกันการใช้เป็นช่องทางในการกระทำผิดกฎหมาย

ในส่วนของ เงินที่ยึดมาได้จะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 
1. เงินที่ศูนย์ AOC 1441 รับแจ้งจากผู้เสียหาย และมีการอายัดบัญชีทันที กรณีนี้สามารถคืนเงินกับผู้เสียหายได้ เพราะมีเส้นทางการเงิน 
2. เงินที่ ป.ป.ง. ยึดได้จะต้องตรวจสอบก่อนว่าเส้นทางการเงินมาจากแหล่งใด ก่อนเฉลี่ยคืนผู้เสียหายต่อไป

ทั้งนี้ จากการอายัดบัญชีดังกล่าว มีเงินค้างอยู่ในระบบล่าสุดกว่า 900 ล้านบาท คาดว่าจำนวนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในส่วนการจะคืนเงินให้กับผู้เสียหายต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบ พิสูจน์ ก่อนเฉลี่ยคืนผู้เสียหาย 

“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญทางการป้องกัน ปราบปราม อาชญากรรมออนไลน์ทางเทคโนโลยี รวมทั้งให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้เท่าทัน กลโกงหลอกลวงของอาชญากรตลอดมา ซึ่งรวมทั้งได้สั่งการอย่างเด็ดขาดให้จับกุม ปราบปรามการกระทำผิดผ่านช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลของการจับกุม อายัดเส้นทางการเงินเหล่านี้ เป็นผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมของการทำงานอย่างจริงจังของรัฐบาล รวมทั้ง เป็นความมุ่งมั่นของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการจะปกป้องประชาชนให้พ้นจากเหล่ามิจฉาชีพ” นายชัย กล่าว

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/82602

รัฐบาลสั่งจัดการเด็ดขาด อาชญากรรมออนไลน์ 
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายกฯ ให้ความสำคัญทางการป้องกัน ปราบปราม อาชญากรรมออนไลน์ทางเทคโนโลยี รวมทั้งให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้เท่าทัน กลโกงหลอกลวงของอาชญากรตลอดมา ซึ่งรวมทั้งได้สั่งการอย่างเด็ดขาดให้จับกุม ปราบปรามการกระทำผิดผ่านช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลของการจับกุม อายัดเส้นทางการเงินเหล่านี้ เป็นผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมของการทำงานอย่างจริงจังของรัฐบาล รวมทั้ง เป็นความมุ่งมั่นของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการจะปกป้องประชาชนให้พ้นจากเหล่ามิจฉาชีพ

ดีอี-ยธ.จับมือจัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
    การจัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา มีอำนาจหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครอบคลุมทุกมิติ เปิดทำการ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป 
    ดีอี ร่วมมือกับสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดตัวระบบยื่นคำร้องขอปิดกั้นเว็บไซต์ทางออนไลน์ต่อศาล ให้มีคำสั่งระงับทำให้แพร่หลายหรือลบ ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ (พร้อมให้ใช้พยานหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ 100% ไต่สวน - มีคำสั่งศาลโดยใช้ Digital Signature มีความรวดเร็ว ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ผลการดำเนินงานของ ดีอี ระยะ 30 วัน
    1. การปราบปรามจับกุมอาชญากรรมออนไลน์ ทุกประเภท มกราคม - มีนาคม 2567 เฉลี่ย 2,600 คน/เดือน เทียบกับเดือน เมษายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 6,458 คน มูลค่าความเสียหายของคดี เดือนมีนาคม 2567 เฉลี่ย 149 ล้านบาท/วัน เดือนเมษายน 2567 เสียหายเฉลี่ย 110 ล้านบาท/วัน 
2. การปิดกั้นเว็บไซต์ ผิดกฎหมาย และเว็บพนันออนไลน์ทุกประเภท เดือนเมษายน 2567 จำนวน 16,158 รายการ เพิ่มขึ้น 25.8 เท่าตัว เทียบกับปีก่อน
3. การแก้ไขปัญหาบัญชีม้า เร่งอายัดและตัดตอนการโอนเงินกว่า 3 แสนบัญชี
4. การแก้ไขปัญหาซิมม้าและการใช้ซิมอย่างผิดกฎหมาย 
5. การดำเนินการเรื่องเสาโทรคมนาคม สายสัญญาณอินเทอร์เน็ต และสายโทรศัพท์ที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน
    6. การร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยปราบปรามจับกุมชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมผิดกฎหมาย
7. การประสานความร่วมมือระหว่างประเทศในการปราบปรามจับกุม
8. การกำกับดูแลแก้ไขปัญหาการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผิดกฎหมาย
9. การบูรณาการข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
10. มาตรการด้านกฎหมายและงานสำคัญอื่น

แนวทาง-มาตรการสำคัญ ในระยะต่อไป
    การปราบปรามจับกุมอาชญากรรมออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ
    การป้องกันการเปิดบัญชีม้า ซิมม้า และกวาดล้างจับกุมผู้เกี่ยวข้อง
    การแก้ปัญหาหลอกลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์ โดยเฉพาะกรณี COD
    การเร่งรัดคืนเงินและเยียวยาให้ผู้เสียหาย
    การเพิ่มความรับผิดชอบของผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และผู้ให้ทางการเงิน ต่อปัญหาอาชญากรรมออนไลน์
    การรณรงค์ประชาสัมพันธ์และสร้างภูมคุ้มกับอาชญากรรมออนไลน์ แบบเจาะจงเรื่องการหลอกลงทุน การหลอกหารายได้ และหลอกแก๊งคอลเซนเตอร์
    การเร่งรัดการแก้กฎหมาย
 


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar