FIFA สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (Fédération Internationale de Football Association: FIFA) หรือ ฟีฟ่า เป็นองค์กรที่ดำเนินการในกีฬาฟุตบอลระหว่างประเทศ และเป็นองค์กรกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลกปัจจุบันสำนักงานตั้งอยู่ที่เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยจัดการแข่งขันกีฬาในรายการต่าง ๆ           ได้แก่ ฟุตบอลโลก, คอนเฟเดอเรชันส์คัพ, ฟุตบอลโลกหญิง, ฟุตบอลโลกเยาวชน ยู 20, ฟุตบอลโลกเยาวชน   ยู 17, ฟุตบอลโลกเยาวชนหญิง ยู 19, ฟุตบอลในโอลิมปิก, ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ หรือฟุตบอลสโมสรโลก
นอกจากฟุตบอลพื้นฐานแล้ว ฟีฟ่ายังคงจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก หรือฟุตซอลโลก 
เริ่มตั้งแต่ปี 1989 และบีชซอกเกอร์เวิลด์คัพ หรือการแข่งขันชิงแชมป์โลกสำหรับฟุตบอลชายหาดด้วย

ครั้งแรกในอาเซียน ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุม FIFA Congress
ประเทศไทยได้รับโอกาสให้เป็นเจ้าภาพจัดประชุม FIFA Congress ครั้งที่ 74 ระหว่างวันที่ 13 - 17 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งถือเป็นการจัดประชุมครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน และเป็นครั้งที่ 6 ในทวีปเอเชีย โดยจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 3,000 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารและผู้ติดตามของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) เช่น เหล่าอดีตนักฟุตบอลระดับโลก (FIFA LEGEND) เช่น เดวิด เบ็คแฮม ตำนานกัปตันทีมชาติอังกฤษและนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ รีล มาดริด รอการตอบรับอย่างเป็นทางการ    และผู้แทนจากสมาคมและสมาพันธ์ที่เป็นสมาชิกของ FIFA ทั้ง 211 ประเทศทั่วโลก โดยประเด็นสำคัญในการประชุม มีดังนี้
•    การเปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2030 (พ.ศ. 2573)
•    การโหวตหาเจ้าภาพฟุตบอลหญิง ชิงแชมป์โลก ในปี 2027 (พ.ศ. 2570) ซึ่งเป็นรายการสำคัญ
ที่ประเทศไทยเตรียมจะเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในอนาคต
•    ระเบียบการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 เป็นการจัดร่วมระหว่างแคนาดา เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา ที่จะมี 48 ชาติเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้
•    เพื่อประกาศยืนยันจัดฟุตบอลโลก U17 (การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์โลกสำหรับผู้เล่นชายที่อายุ
ไม่เกิน 17 ปี) ทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2568 หรือ ปี ค.ศ. 2025 เป็นต้นไป  

ประโยชน์ของประเทศไทยและประชาชนไทยที่จะได้รับจากการประชุมครั้งนี้
•    การจัดประชุมครั้งนี้ TCEB คาดว่าจะสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศไทยและก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 38.31 ล้านบาท และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เศรษฐกิจในประเทศประมาณ 21.25 ล้านบาท
•    ส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านกีฬาของประเทศไทยในเวทีระดับโลก เช่น การเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติต่าง ๆ รวมถึงการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมด้านกีฬาระดับนานาชาติ
•    เป็นโอกาสในการนำเสนอเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Soft Power) ของไทยให้กับกลุ่มที่มีชื่อเสียง
และเป็นที่รู้จักในสังคม
•    เสริมสร้างความเชื่อมั่นและชื่อเสียงให้กับประเทศไทย เกิดการสร้างรายได้จากการเดินทาง
และท่องเที่ยวของผู้เข้าร่วมประชุม กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ตลอดจนส่งเสริม Soft Power 
ด้านต่าง ๆ ของไทย และยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมด้านกีฬาที่สำคัญของโลกต่อไปในอนาคต

FIFA จัดอันดับฟุตซอลไทยติด Top 10 ของโลก ทั้งชายและหญิง สร้างประวัติศาสตร์ สะท้อนศักยภาพเป็นเลิศทางด้านกีฬาของไทยในระดับโลก

เว็บไซต์ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (Fédération Internationale de Football Association) หรือ FIFA เปิดเผยผลการจัดอันดับทีมฟุตซอลระดับโลกทั้งทีมชายและทีมหญิงอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพื่อรองรับการแข่งขันฟุตซอลโลก 2024 รอบสุดท้าย ที่สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 14 กันยายน - 6 ตุลาคม 2567 โดยทีมนักกีฬาฟุตซอลของไทย ติด Top 10 ของโลก ทั้งชายและหญิง      เป็นการยืนยันถึงศักยภาพทางด้านกีฬาของไทยในระดับโลก
โดยทีมฟุตซอลชายทีมชาติไทย ได้คว้ารองแชมป์เอเชีย 2024 ในรายการ AFC Futsal Asian Cup Thailand 2024 เป็นสมัยที่ 3 ทำให้ถูกจัดในอันดับที่ 9 ของโลก ด้วยคะแนน 1316.27 และติดอันดับ 2 ของเอเชีย ขณะที่ทีมฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย อดีตแชมป์ 2017 Asian Indoor and Martial Arts Games        ได้ถูกจัดอันดับให้เป็นเบอร์ 1 ของเอเชีย และอันดับที่ 6 ของโลก ด้วยคะแนน 1163.97
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ชื่นชมกับผลงานของนักกีฬาไทย และการจัดอันดับดังกล่าว ที่แสดงถึงศักยภาพของนักกีฬาไทยที่มีความสามารถทางด้านกีฬาเป็นเลิศในเวทีนานาชาติ เป็นความภาคภูมิใจให้กับประเทศ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับ ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งผลักดันยกระดับวงการกีฬาไทย พร้อมส่งเสริมพัฒนาด้านกีฬาของประเทศให้เดินไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้น รวมถึงส่งเสริมให้เยาวชนไทยรุ่นใหม่หันมาสนใจกีฬา และกล้าที่จะทำตามความฝันของตนเอง

ประเทศไทย พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงาน ฟีฟ่า คองเกรส ครั้งที่ 74 ชาติแรกในอาเซียน – ต้อนรับสุดยอดผู้นำฟุตบอลทั่วโลก

รัฐบาลไทย ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย           ในพระบรมราชูปถัมภ์, สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB และสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) จัดงานแถลงข่าวร่วมกัน เพื่อนับถอยหลังสู่ความยิ่งใหญ่ และแสดงให้เห็นถึงความพร้อม สำหรับการจัดประชุม ฟีฟ่า คองเกรส ครั้งที่ 74 ประจำปี 2024 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ       ระหว่างวันที่ 13 - 17 พฤษภาคม 2567
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า รัฐบาล           ให้ความสำคัญกับการเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะจะมีสมาชิกของฟีฟ่า เดินทางมาถึง 211 ประเทศทั่วโลก และ มีนักกีฬาฟุตบอลระดับตำนานมาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงคาดว่าจะมีผู้คนเดินเข้ามาในประเทศไทย กว่า 3,000 คน และจะมีการถ่ายทอดกิจกรรมและการประชุมครั้งนี้ไปทั่วโลก ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทย 

ที่จะประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในการท่องเที่ยว วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต จากการต้อนรับอันอบอุ่นของคนไทย ซึ่งเป็นการเน้นย้ำนโยบาย Soft Power ที่นับว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของประเทศนอกจากนั้น ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬา เด็ก เยาวชนทุก ๆ กลุ่มที่มีโอกาสได้เห็นและได้สัมผัสกับนักกีฬาฟุตบอลชื่อดังในตำนานของกิจกรรมที่จะมีขึ้น การเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมครั้งนี้ส่งผลให้ประเทศไทยได้เป็นที่รู้จักและได้รับความเชื่อมั่นจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น 
ด้าน นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า นับเป็นภาพแห่งความภาคภูมิใจ และ หนึ่งประวัติศาสตร์สำคัญของ สมาคมฯ โดย ประเทศไทย ได้รับเลือกจาก ฟีฟ่า                ให้เป็นเจ้าภาพ ในฐานะประเทศแรกของภูมิภาคอาเซียน และ เป็นประเทศที่ 5 ในทวีปเอเชีย ต่อจาก ประเทศญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, กาตาร์ และ ออสเตรเลีย โดยปีนี้จะมีวาระสำคัญหลายอย่างเกิดขึ้น หนึ่งในนั้น คือ การโหวตเลือกเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2027 จึงถือเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำองค์กรลูกหนังจากทั่วโลก รวมไปถึงสหพันธ์ฟุตบอลระดับทวีปอีกมากมายที่ จะเข้ามา เช่น ยูฟ่า, ซีเอเอฟ, เอเอฟซี ,โอเอฟซี, คอนเมโบล และ คอนคาเคฟ จึงถือว่านี่ คือ อีเวนท์นอกสนามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกฟุตบอล และกำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทยของเรา