นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจต่อผลการดำเนินโครงการ คนละครึ่งเฟส 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจาก ทั้งประชาชนและร้านค้า สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายประจำวันของประชาชน เงินสะพัดในชุมชน เจ้าของร้านค้า หาบเร่ แผงลอย ต่างก็มีรายได้เพิ่มขึ้นและการใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ก็สะดวก 

ล่าสุด ยอดรวมของมาตรการเยียวยาและการฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 เพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มียอดการใช้จ่ายของแต่ละโครงการ ผู้ใช้สิทธิสะสมรวมกว่า 39.9 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสมรวม 108,387.5 ล้านบาท แบ่งเป็น 

โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 25.08 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 94,458 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 48,005 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 46,452 ล้านบาท 

โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 81,929 คน ยอดใช้จ่ายส่วนประชาชนสะสม 2,603 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายด้วย e-voucher สะสม 130 ล้านบาท โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 13.54 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 10,433 ล้านบาท และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 1.2 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 761 ล้านบาท

ส่วนการใช้บริการ คนละครึ่ง เฟส 3 ผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ อย่าง GRAB และ  LINE MAN  มีร้านค้าให้บริการผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มแล้ว กว่า 58,000 ราย ประชาชนสามารถใช้จ่ายโครงการดังกล่าว ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้ เป็นการกระตุ้นให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยได้สะดวกมากขึ้น สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ New Normal ทำให้เศรษฐกิจชุมชนมีการขยายตัวมากขึ้น ขณะที่สถานการณ์ระบาดโควิด-19 และมาตรการควบคุมของรัฐบาล เริ่มคลี่คลาย เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งคาดว่ากิจกรรมเศรษฐกิจจะกลับมาเป็นปกติมากขึ้น ประชาชนในประเทศมีความเชื่อมั่น กลับมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น รวมทั้งเริ่มต้นเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และเทศกาลปีใหม่ โดยรัฐบาลพร้อมเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่ไปกับมาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย พลิกโฉมประเทศ  

ข้อมูล